วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

[การ์ตูนเกาหลี] หัวใจเต้นตึกตักตึกตัก ตอน1.1

การ์ตูนเวบของเกาหลีค่ะ เรื่องนี้ดังมากๆ และสนุกมากเลย พี่นุชเลยเอาบางส่วนของตอนที่1มาแปลเป็นภาษาไทยให้อ่านเป็นการเรียกน้ำย่อยกันก่อน
ถ้าเรื่องนี้ได้รับการแปลเมื่อไหร่ก็คงดีสินะ เฮ้ออ

วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จองอิลวู "แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีสีสำหรับจองอิลวู"

"งานจบแล้วดูเหมือนตัวบวมขึ้นนะ"จากคำพูดนี้ ทำให้เจ้าตัวต้องรีบคว้ากระจกมาดูอย่างพินิจพิจารณาพลางลูบคลำคางไปมา แม้จะอวดว่าสนิทสนมกันดีกับลีโยวอน แต่จองอิลวูก็เผยว่า "ถ่ายทำจบแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยครับ พี่ก็ต้องดูแลเด็ก ก็แบบว่า พวกเราเจ๋งนี่น่า? ฮ่าๆ" ทำให้เห็นถึงเสน่ห์ที่เปล่งประกายระยิบระยับกันเลยทีเดียว จองอิลวูหนุ่มสดใสวัย25ปี ในละครเรื่อง49Daysที่เพิ่งจบไปเมื่อวันที่19ที่ผ่านเขาเล่นเป็นยมฑูตแต่จะพูดให้ทันสมัยหน่อยก็เรียกว่า'Scheduler ซงอีซู' เป็นSchedulerที่ทันแฟชั่น แม้จะดูมีนิสัยหยาบกร้านแต่เมื่อได้มายืนดูต่อหน้าผู้หญิงที่รัก ก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่มีหัวใจที่บริสุทธฺิ์ จองอิลวู เดบิวในซิคคอมเรื่อง Unstoppable HighKickทางช่องMBC หลังจากก็เรื่อง The Return of Iljimae ช่องMBCกับ My Fair Lady ช่องKBS ในผลงานที่ผ่านมาของเขาเป็นทั้งประสบการณ์ของการแสดงและความนิยิมที่มีทั้งรสหวานรสขม จากนั้นอีกหนึ่งปีครึ่งเขาก็ได้กลับมาคืนสู่จอแก้วอีกครั้งในละครเรื่อง 49Days จะเป็นละครที่มีความหมายอย่างไรนั้น มีอยู่อย่างหนึ่งที่แน่ๆก็คือ ความจริงที่เขาบอกว่าเป็นสองเดือนที่"เพลิดเพลินใจมาก"

Q : หลังจากละครจบแล้ว ดูเหมือนจะติดอกติดใจกับคาแร็กเตอร์ของละครเรื่องมากจนโพสข้อความในทวิตเตอร์ว่า "วันนี้..คิดถึงอีซูมาก... ซงอีซู.. ลาก่อน" ดูเหมือนคาแร็กเตอร์นี้จะมีจุดไหนที่โดนใจอยู่นะ
จองอิลวู : เพราะเป็นคาแร็คเตอร์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนครับ ทั้งสดใสและ ด้วยความที่เขามีสองด้าน ผมคิดว่าจะทำให้เขาดูมีเสน่ห์ครับ ยมฑูติโดยทั่วไปจะมีรูปลักษณ์ที่โดนเด่นก็คือจะเย็นชา น่าเกรงขาม และมืดมนเศร้าหมอง แต่ผมอยากจะทำให้เวลาคนดูชมแล้วไม่กลัวSchedulerครับ ถือว่าได้รับเล่นตัวละครที่ธรรมชาติมากๆเลยครับ

Q : "โย้ว คีดารยอ คีดารยอ คีดารยอ คีดารยอ นัน ชอซึงจาอานยา สแคจูลเลอร์" เพลงของScheduler แม้จะมีเนื้อหาแปลกๆแต่ก็น่ารัก เลยทำให้Schedulerดูมีเสน่ห์ขึ้นมาเลยทีเดียว ไม่ทราบว่าตอนที่ฟังเพลงนี้ครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง
จองอิลวู : นักเขียน โซฮยอนกยองบอกว่าอยากได้อารมณ์ประมาณนี้ ก็เลยไปขอให้พี่ที่เป็นนักร้องที่สนิทกันช่วยแต่งเพลงอารมณ์ประมาณตลกๆให้หน่อย พี่เขาแต่งให้ตามที่ผมต้องการไปด้วยพลางเคาะ ตักๆๆๆ ไปด้วย เนื้อเพลงก็ขำๆดี ต้องอัดเสียง อัดเสร็จไม่ถึงชั่วโมงเลย นักเขียนชอบมากครับ
Q : ในช่วงแรก Schedulerไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่พอได้รู้ความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบคนรักในอดีตของตัวเองกับซงอีกยอง(ลีโยวอน)ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จุดสำคัญก็เลยเป็นเรื่องรักซะเลย
จองอิลวู : จริงๆในเรื่องย่อ ซงอีซู ไม่ได้มีอะไรสำคัญมากขนาดนั้น แค่คอยช่วยซินจีฮยอน(นัมคยูริ) อยู่ข้างๆ จนสุดท้ายก็ได้รักอีกยองจริงๆ และจากไป อะไรประมาณนั้นครับ แต่พอถ่ายทำไปเรื่อยๆ ทั้งผู้กำกับ ผู้เขียน และสตาฟก็ได้ประชุมกันแล้วจุดสำคัญมันก็ค่อยๆใหญ่ขึ้น

Q :ยิ่งเริ่มเข้าไปตอนหลังของเรื่อง Scheduler ก็ยิ่งต้องทำอารมณ์มากขึ้น ต้องแสดงออกมาอย่างไงนะ
จองอิลวู : ตอนหลังก็ได้รู้ว่าร่างที่ซินจีฮยอนยืมไปคือร่างของผู้หญิงที่เขาเคยรักมาก่อน ผมต้องเล่นกับซินจีฮยอนเข้าไปอยู่ในร่างของซงอีกยอง หรือเรียกอีกอย่างว่า "ร่างสิงอีกยอง"ซึ่งเล่นยากมากครับ ความจริง ต้องเล่นตั้งแต่แรกแล้วว่าความรู้สึกต้องเปลี่ยนไปนิดนึงตอนที่เล่นกับ"ร่างสิงอีกยอง" แม้จะจำความไม่ได้ยังไงก็เป็นร่างของคนที่เคยรัก เมื่อปฎิบัติต่อเขา มันจะมีความรู้สึกอะไรที่เปลี่ยนไปนิดนึงอ่ะ แม้ว่าตอนพูดเหมือนกัน จะพูดให้เหมือนกับรักที่เรารัก ก็ต้องค่อยๆแสดงไปทีละนิดไม่ได้รู้ได้ ผมพอจะเข้ากับพี่โยวอนได้ดี ก็เลยช่วยได้มากเลยครับ


Q :ตรงจุดไหนที่เข้ากับพี่โยวอนได้ดี?
จองอิลวู : พี่เขามาซ้อมแล้วแสดงเอาในกองถ่ายเลย ซึ่งมันเร็วจนผมยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรเท่าไหร่แต่กลับเล่นออกมาได้ดี เพราะได้รับรีแอ็คชั่นจากพี่เขาได้อย่างธรรมชาติมากก็เลยลองเล่นไป ก็เป็นอะไรที่ไม่เชิงตีบทแตกแต่ทำให้ได้สมาธิในเหตุการณ์นั้น

Q : ผลงานก่อนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้สึกปราบปลื้มแบบนั้นเลยนะ
จองอิลวู : ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำงานเข้ากันได้ดีกับนักแสดงหญิง ตอนนั้นผมยังแสดงไม่ค่อยเก่ง ก็เลยหมกมุ่นอยู่แต่บทของตัวเอง ตอนนี้การเล่นรับส่งอารมณ์กับคู่นั้น รู้สึกว่าจะดีขึ้นมานิดหน่อยแล้วครับ






เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาลงต่อนะคะ^^

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[เมนูอาหารว่าง]ขนมปังอบไข่ใส่มายองเนส!

วันนี้เปิดเข้าไปเจอบล็อกของคนเกาหลีบล็อกหนี่งค่ะ เขาแนะนำสูตรทำของว่างง่ายๆ สำหรับนำมาทำทานกันในวันสบายๆ









คือขนมปังอกไข่ขอบมายองเนส!!



เห็นแค่รูปก็น่ากินแล้วใช่มั้ยคะ








อุปกรณ์ในการทำก็คือ..

ไข่ไก่ 1 ฟอง, ขนมปังแผ่น 1 แผ่น, มายองเนส, ซอสมะเขือเทศ,


วิธีทำก็ง่ายมากๆ

บีบมายองเนสใส่รอบๆขอบขนมปัง






จากนั้นก็ตอกไข่ใส่ไปในกรอบมายองเนส



เข้าเตาอบ..






และก็จะออกมาเป็นแบบนี้^^

จากนั้นก็ตกแต่งด้วยซอสมะเขือเทศตามใจชอบได้เลยค่ะ^^







credit : /siawasecall

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

บทสัมภาษณ์นักแสดงจากDream High


Q : ในบรรตัวละครในเรื่องนี้ คิดว่าใครน่าจะประสบความสำเร็จก่อนคนแรก?
ซูจี : ยูนแบคฮีคะ เธอขยันและกัดฟันสู้อย่างมาก ก็น่าจะประสบความสำเร็จก่อนคะ
ซูฮยอน : ถูก! แบคฮีน่ะ เป็นที่เอาจริงเอาจริงจนมีความโลภมาก ไม่ว่าจะทำอย่างไงก็เลยดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จก่อนใคร
อึนจอง : ซัมดงคะ เพราะว่าเป็นเด็กที่มีพรสรรค์คะ
แทกยอน : ผมก็คิดว่าเป็นซัมดงครับ เขาบอกว่านักร้องต้องมีพรสรรค์แต่ซัมดงนี่โดดเด่นจริงๆ
อูยอง : ถ้างั้นฉัน...พิลซุก(หัวเราะ)พิลซุกอ่ะ เป็นคนที่ขยันก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ถึงที่สุดอ่ะครับ

Q : สิ่งที่เผชิญใน Dream High
ซูฮยอน : Dream Highนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายผมมากเลยครับ ซงซัมดงนั้นเป็นคนที่แตกต่างจากบทที่ผมเคยเล่นมาจนถึงตอนนี้อย่างสิ้นเชิงเลยครับ ก็เลยต้องใส่ใจมากขึ้น ต้องเต้นด้วย ต้องร้องเพลงด้วย และที่พลาดไม่ได้ก็คือการแสดง ผมหมายถึงพลังงานของเหล่าเพื่อนๆไอดอลนั้น สุดยอดมากครับ การร้องและการเต้น ในสองอย่างนี้ยังต้องพิชิตการแสดงอย่างอื่นอีก แต่พวกเขาก็ทำอย่างเต็มที่มากครับ แม้ว่าจะไม่รู้ว่าผมจะมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อน แทนที่จะรู้สึกว่าเพือนๆให้เกียรติ แต่กลับได้เรียนรู้อะไรมากว่านั้นอ่ะครับ

ซูจี : คิดว่าการแสดงในช่วงแรกนั้นจะต้องได้รับการวิภาควิจารณ์อย่างแน่นอนเลย ขนาดตัวฉันเองยังให้คะแนนการแสดงของฉันเป็น 0 คะแนนเลย แต่ต้องพยายามและพัฒนาให้ดียิ่งเพื่อให้ได้100คะแนนเต็ม และคิดว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือทำออกให้ได้ดีที่สุดคะ

อูยอง : ถ้ามีบทที่ยากหรือส่วนไหนที่ไม่เข้าใจก็จะถามพี่แทกยอนกับพี่ซูฮยอนเสมอเลยครับ คงจะทำให้พวกพี่รำคาญน่าดู(หัวเราะ) ดังนั้นก็ดูเหมือนจะช่วยทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ในละครเสน่ห์ของเจสันก็คือความมั่นใจในตัวเองมากๆ แต่เพราะว่าเป็นการเล่นละครครั้งแรกก็ยังมีเล่นแข็งๆอยู่บ้างครับ ก็จะพยายามเพื่อเล่นให้ผ่อนคลายมาขึ้นและเพื่อให้ละครออกมาสนุกครับ

แทกยอน : ไม่ใช่เพราะว่าพื้นฐานนักร้องอยู่แล้ว ในละครในฐานะที่เป็นจินกุก ทุกครั้งที่ต้องอัดฉากคนเดียวในขั้นตอนวิธีการเตรียมตัวใหม่ๆทำให้ผมต้องใจสู้กับมันมากขึ้น ตอนที่แสดงนั้นผมได้เรียนรู้อะไรจากซูฮยอนมากเลยครับ เพราะเป็นเพื่อนอายุเท่ากัน ยิ่งทำตัวสบายได้มากขึ้น ซูฮยอนคอยช่วยผมอยู่ข้างๆไว้มากก็รู้สึกขอบคุณจริงๆ

อึนจอง : ความจริงในตอนแรกไม่รู้ว่าแบคฮีจะร้ายขึ้นถึงขนาดนี้ ในช่วงแรกๆที่เล่นฉันคิดว่าเหมือนฉันมากแต่พอยิ่งเล่นไปยิ่งร้ายขึ้นเรื่อยๆ ก็กังวลมากว่าต้องเล่นยังไงดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะค้นพบฉันคนใหม่แล้ว แต่ก่อนฉันไม่เคยมีแอนตี้แฟนเลย แต่ตอนนี้แฟนที่แอนตี้ฉันเพิ่มขึ้นเยอะมาก ไม่รู้ว่าอันนี้จะต้องดีใจหรือเสียใจดี (หัวเราะ)

Q : ถ้าให้หยุดพักผ่อนหนึ่งวัน
ซูฮยอน : ผมจะนอนทั้งวันเลยครับ อา ต้องกินแล้วนอน กินแล้วนอนสิ(หัวเราะ)
แทกยอน : มีหลายอย่างเลยที่ผมอยากแต่ไม่ได้ทำในช่วงถ่ายละคร เรียนภาษาญี่ปุ่น ออกกำลังกาย ซ้อมเต้น ตอนนี้ผมตามหลังสมาชิก2PMอยู่จะต้องกลับไปตามอีกทีหลังด้วยครับ
ซูฮยอน : ถ้างั้น ฉันที่กินแล้วนอน มันคืออะไรล่ะครับเนี้ย(หัวเราะ)

Q : รักสามเศร้า
ซูจี : เป็นเพื่อนกันจินกุกตอนแต่สมัยเด็กๆแล้วก็ค่อยๆเผยท่าทางที่ไม่ดีซึ่งกันและกันให้เห็น มันเรียกว่าอะไรคะ รักที่เศร้า? อะไรประมาณนั้นอะคะ อืม... แค่อยากเป็นผู้ผู้หญิงที่อยากให้จินกุกกอด และเป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถไปจากซัมดงได้(หัวเราะ) ได้รับความรักจากทั้งสองคนก็รู้สึกดีใจแล้วคะ
แทกยอน : ยังไม่มีความรู้สึกถึงความละเอียดอ่อนที่ออกมาจากรักสามเศร้าเลยครับ ถึงแม้ว่าจะชอบหึงเรื่องเกี่ยวกับซัมดงก็เถอะ(หัวเราะ)
ซูฮยอน : ไม่นะ มีสิ ในกองถ่ายผมกับแทกยอนสบตากันอยู่บ่อยๆ แบบนี้เรียกว่าความรักและความเกลียดชังรึป่าวนะ? รู้สึกคิดถึงแทกยอนขึ้นอยู่บ่อยๆ แม้ว่าไม่มีซีนที่เจอกันแต่ก็คอยเหลียวมองอยู่บ่อยๆครับ ว่าอะไรอยู่ผมต้องรู้ให้ได้(หัวเราะ) ให้พูดถึงว่าในบรรดานักแสดงหญิงคนไหนคือสเป๊กผมอ่ะหรอครับ? เอาทั้งหมดไม่ได้หรอครับ ฤดูใบไม้ผลิเป็นซูจี หน้าร้อนก็อึนจอง ใบไม้ร่วงก็ไอยู แล้วฤดูหนาวก็ แทกยอนก็ดี(หัวเราะ)

Q : ฉากที่ประทับใจ
อูยอง : ซีนที่ไปร้องคาราโอเกะกับพิลซุกครับ(หัวเราะ)
แทกยอน : ฉากที่ชอบโดยส่วนตัวเป็นฉากที่จินกุกยืนตากหิมะกับเฮยมิครับ ถ่ายออกมาได้ดูบริสุทธิ์ สวยและอบอุ่นครับ
อึนจอง : ฉากที่ประทับใจที่สุดคือฉากขัดแย้งกับเฮยมิ ตอนที่ขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อจะโยนกระถางดอกไม้ลงมาใส่เฮยมิ และก็ฉากตอนที่ตบตีกับเฮยมิในห้องน้ำคะ
ซูฮยอน : ฉากที่ลงไปที่เมืองซุนชอนเพื่อแสดงร่วมกันกับเพื่อนห้องคัดเลือกพิเศษ ฉากที่ร้องและเต้นเพลงTell Me your Wish เรียนท่าเต้นในช่วงเวลาที่สั้นมากๆจริงๆแล้วก็ถ่ายกันเลยครับ ได้เรียนเต้นขั้นพื้นฐานแบบสั้นๆโดยครูอ๊ก!(หัวเราะ)สอนให้ในกองถ่ายด้วยครับ ยังมีเขินและยังไม่ชินอยู่บ้างแต่ในซีนที่ทั้งเต้นและร้องเพลงด้วยความจริงใจเพื่อใครสักคนหนึ่ง สามารถรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่เหมือนว่าทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆครับ

บทสัมภาษณ์จากนิตยาสาร Junior ฉบับเดือนมีนาคม2011
แปลโดย inkr2011