วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

บทสัมภาษณ์นักแสดงจากDream High


Q : ในบรรตัวละครในเรื่องนี้ คิดว่าใครน่าจะประสบความสำเร็จก่อนคนแรก?
ซูจี : ยูนแบคฮีคะ เธอขยันและกัดฟันสู้อย่างมาก ก็น่าจะประสบความสำเร็จก่อนคะ
ซูฮยอน : ถูก! แบคฮีน่ะ เป็นที่เอาจริงเอาจริงจนมีความโลภมาก ไม่ว่าจะทำอย่างไงก็เลยดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จก่อนใคร
อึนจอง : ซัมดงคะ เพราะว่าเป็นเด็กที่มีพรสรรค์คะ
แทกยอน : ผมก็คิดว่าเป็นซัมดงครับ เขาบอกว่านักร้องต้องมีพรสรรค์แต่ซัมดงนี่โดดเด่นจริงๆ
อูยอง : ถ้างั้นฉัน...พิลซุก(หัวเราะ)พิลซุกอ่ะ เป็นคนที่ขยันก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ถึงที่สุดอ่ะครับ

Q : สิ่งที่เผชิญใน Dream High
ซูฮยอน : Dream Highนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายผมมากเลยครับ ซงซัมดงนั้นเป็นคนที่แตกต่างจากบทที่ผมเคยเล่นมาจนถึงตอนนี้อย่างสิ้นเชิงเลยครับ ก็เลยต้องใส่ใจมากขึ้น ต้องเต้นด้วย ต้องร้องเพลงด้วย และที่พลาดไม่ได้ก็คือการแสดง ผมหมายถึงพลังงานของเหล่าเพื่อนๆไอดอลนั้น สุดยอดมากครับ การร้องและการเต้น ในสองอย่างนี้ยังต้องพิชิตการแสดงอย่างอื่นอีก แต่พวกเขาก็ทำอย่างเต็มที่มากครับ แม้ว่าจะไม่รู้ว่าผมจะมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อน แทนที่จะรู้สึกว่าเพือนๆให้เกียรติ แต่กลับได้เรียนรู้อะไรมากว่านั้นอ่ะครับ

ซูจี : คิดว่าการแสดงในช่วงแรกนั้นจะต้องได้รับการวิภาควิจารณ์อย่างแน่นอนเลย ขนาดตัวฉันเองยังให้คะแนนการแสดงของฉันเป็น 0 คะแนนเลย แต่ต้องพยายามและพัฒนาให้ดียิ่งเพื่อให้ได้100คะแนนเต็ม และคิดว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือทำออกให้ได้ดีที่สุดคะ

อูยอง : ถ้ามีบทที่ยากหรือส่วนไหนที่ไม่เข้าใจก็จะถามพี่แทกยอนกับพี่ซูฮยอนเสมอเลยครับ คงจะทำให้พวกพี่รำคาญน่าดู(หัวเราะ) ดังนั้นก็ดูเหมือนจะช่วยทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ในละครเสน่ห์ของเจสันก็คือความมั่นใจในตัวเองมากๆ แต่เพราะว่าเป็นการเล่นละครครั้งแรกก็ยังมีเล่นแข็งๆอยู่บ้างครับ ก็จะพยายามเพื่อเล่นให้ผ่อนคลายมาขึ้นและเพื่อให้ละครออกมาสนุกครับ

แทกยอน : ไม่ใช่เพราะว่าพื้นฐานนักร้องอยู่แล้ว ในละครในฐานะที่เป็นจินกุก ทุกครั้งที่ต้องอัดฉากคนเดียวในขั้นตอนวิธีการเตรียมตัวใหม่ๆทำให้ผมต้องใจสู้กับมันมากขึ้น ตอนที่แสดงนั้นผมได้เรียนรู้อะไรจากซูฮยอนมากเลยครับ เพราะเป็นเพื่อนอายุเท่ากัน ยิ่งทำตัวสบายได้มากขึ้น ซูฮยอนคอยช่วยผมอยู่ข้างๆไว้มากก็รู้สึกขอบคุณจริงๆ

อึนจอง : ความจริงในตอนแรกไม่รู้ว่าแบคฮีจะร้ายขึ้นถึงขนาดนี้ ในช่วงแรกๆที่เล่นฉันคิดว่าเหมือนฉันมากแต่พอยิ่งเล่นไปยิ่งร้ายขึ้นเรื่อยๆ ก็กังวลมากว่าต้องเล่นยังไงดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะค้นพบฉันคนใหม่แล้ว แต่ก่อนฉันไม่เคยมีแอนตี้แฟนเลย แต่ตอนนี้แฟนที่แอนตี้ฉันเพิ่มขึ้นเยอะมาก ไม่รู้ว่าอันนี้จะต้องดีใจหรือเสียใจดี (หัวเราะ)

Q : ถ้าให้หยุดพักผ่อนหนึ่งวัน
ซูฮยอน : ผมจะนอนทั้งวันเลยครับ อา ต้องกินแล้วนอน กินแล้วนอนสิ(หัวเราะ)
แทกยอน : มีหลายอย่างเลยที่ผมอยากแต่ไม่ได้ทำในช่วงถ่ายละคร เรียนภาษาญี่ปุ่น ออกกำลังกาย ซ้อมเต้น ตอนนี้ผมตามหลังสมาชิก2PMอยู่จะต้องกลับไปตามอีกทีหลังด้วยครับ
ซูฮยอน : ถ้างั้น ฉันที่กินแล้วนอน มันคืออะไรล่ะครับเนี้ย(หัวเราะ)

Q : รักสามเศร้า
ซูจี : เป็นเพื่อนกันจินกุกตอนแต่สมัยเด็กๆแล้วก็ค่อยๆเผยท่าทางที่ไม่ดีซึ่งกันและกันให้เห็น มันเรียกว่าอะไรคะ รักที่เศร้า? อะไรประมาณนั้นอะคะ อืม... แค่อยากเป็นผู้ผู้หญิงที่อยากให้จินกุกกอด และเป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถไปจากซัมดงได้(หัวเราะ) ได้รับความรักจากทั้งสองคนก็รู้สึกดีใจแล้วคะ
แทกยอน : ยังไม่มีความรู้สึกถึงความละเอียดอ่อนที่ออกมาจากรักสามเศร้าเลยครับ ถึงแม้ว่าจะชอบหึงเรื่องเกี่ยวกับซัมดงก็เถอะ(หัวเราะ)
ซูฮยอน : ไม่นะ มีสิ ในกองถ่ายผมกับแทกยอนสบตากันอยู่บ่อยๆ แบบนี้เรียกว่าความรักและความเกลียดชังรึป่าวนะ? รู้สึกคิดถึงแทกยอนขึ้นอยู่บ่อยๆ แม้ว่าไม่มีซีนที่เจอกันแต่ก็คอยเหลียวมองอยู่บ่อยๆครับ ว่าอะไรอยู่ผมต้องรู้ให้ได้(หัวเราะ) ให้พูดถึงว่าในบรรดานักแสดงหญิงคนไหนคือสเป๊กผมอ่ะหรอครับ? เอาทั้งหมดไม่ได้หรอครับ ฤดูใบไม้ผลิเป็นซูจี หน้าร้อนก็อึนจอง ใบไม้ร่วงก็ไอยู แล้วฤดูหนาวก็ แทกยอนก็ดี(หัวเราะ)

Q : ฉากที่ประทับใจ
อูยอง : ซีนที่ไปร้องคาราโอเกะกับพิลซุกครับ(หัวเราะ)
แทกยอน : ฉากที่ชอบโดยส่วนตัวเป็นฉากที่จินกุกยืนตากหิมะกับเฮยมิครับ ถ่ายออกมาได้ดูบริสุทธิ์ สวยและอบอุ่นครับ
อึนจอง : ฉากที่ประทับใจที่สุดคือฉากขัดแย้งกับเฮยมิ ตอนที่ขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อจะโยนกระถางดอกไม้ลงมาใส่เฮยมิ และก็ฉากตอนที่ตบตีกับเฮยมิในห้องน้ำคะ
ซูฮยอน : ฉากที่ลงไปที่เมืองซุนชอนเพื่อแสดงร่วมกันกับเพื่อนห้องคัดเลือกพิเศษ ฉากที่ร้องและเต้นเพลงTell Me your Wish เรียนท่าเต้นในช่วงเวลาที่สั้นมากๆจริงๆแล้วก็ถ่ายกันเลยครับ ได้เรียนเต้นขั้นพื้นฐานแบบสั้นๆโดยครูอ๊ก!(หัวเราะ)สอนให้ในกองถ่ายด้วยครับ ยังมีเขินและยังไม่ชินอยู่บ้างแต่ในซีนที่ทั้งเต้นและร้องเพลงด้วยความจริงใจเพื่อใครสักคนหนึ่ง สามารถรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่เหมือนว่าทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆครับ

บทสัมภาษณ์จากนิตยาสาร Junior ฉบับเดือนมีนาคม2011
แปลโดย inkr2011